สินค้าและบริการ
คำถามที่พบบ่อย
ในปัจจุบันราคาบ้านนับว่ามีราคาสูง โดยเฉพาะการสร้างบ้านเองซึ่งจะต้องมีการใช้จ่ายทั้งค่าวัสดุ อุปกรณ์ ค่าจ้างช่าง ค่าแบบบ้าน ค่าพิมพ์เขียว ซึ่งหากเป็นบ้านไม้ก็จะมีราคาแพงมาก เพราะไม้ในปัจจุบันหายากและมีราคาแพง หรือการซื้อบ้านจัดสรรจากโครงการต่าง ๆ ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ถูกกว่าการสร้างบ้านเอง แต่แบบบ้านก็ซ้ำกัน หรือเหมือนกันทั้งโครงการ จึงเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้อยากมีบ้านเป็นของตัวเองที่มีราคาไม่แพง แบบไม่เหมือนใคร ดูดี มีสไตล์ การสร้างบ้านด้วยตู้คอนเทนเนอร์ เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้มีงบจำกัด และมีใจรักในความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร โดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์เก่าที่ใช้สำหรับขนส่งสินค้าทางเรือซึ่งหมดสภาพการใช้ งานแล้ว โดยทั่วไปจะมีสภาพการใช้งานประมาณ 3-5 ปี แต่หากนำมาใช้ในการสร้างบ้านและได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีแล้วจะมีอายุ การใช้งานที่นานถึงประมาณ 15-20 ปี ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์มีให้เลือก 3 ขนาดคือ 20 ฟุต, 40 ฟุต และ 45 ฟุต โดยสามารถเลือกตามความต้องการพื้นที่สำหรับการใช้สอยหรือตามงบประมาณ การสร้างบ้านตู้คอนเทนเนอร์ไม่ได้มีข้อจำกัดเพียงการสร้างบ้านเป็นรูปทรง สี่เหลี่ยมผืนผ้าเพียงเท่านั้น แต่สามารถตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการให้วัสดุอื่น ๆ ได้ โดยอาจใช้ไม้ต่อเป็นชานพักผ่อนหน้าบ้าน เป็นซุ้มประตู ซุ้มบันได หรือสร้างสรรค์เป็นรูปแบบอื่น ๆ ได้ตามใจชอบ สำหรับในบ้านเรานั้นเนื่องจากมีอากาศที่ร้อนมากการสร้างบ้านตู้คอนเทนเนอร์ อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องความร้อนภายใน เพราะตู้คอนเทนเนอร์เป็นโลหะเหล็ก จึงทำให้อากาศภายในตู้ร้อนมาก ดังนั้นก่อนการสร้างบ้านควรติดฉนวนกันความร้อน หรือพ่นโฟมฉนวนกันความร้อนเสียก่อน เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านไม่ให้ร้อนจนเกินไป การออกแบบบ้านตู้คอนเทนเนอร์สามารถออกแบบได้ตามใจชอบ สามารถนำตู้คอนเทนเนอร์หลาย ๆ หลังมาต่อกันเป็นสองชั้น หรือต่อเรียงกันเป็นห้อง หรือเป็นรูปทรงต่าง ๆ ส่วนการจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ภายในตู้อาจใช้ไม้ฝาหรือยิปซั่มกั้นเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องทำงาน เจาะตู้เพื่อทำหน้าต่าง ประตู หรือติดกระจก ตกแต่งห้องต่าง ๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ขนาดกะทัดรัดเพื่อให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอย ไม่ทำให้ภายในห้องต่าง ๆ แคบเกินไป โดยอาจใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถพับเก็บได้ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างภายในชิ้นเดียว หรือหากต้องการให้ภายในบ้านดูโปร่ง โล่ง สบายตา อาจเจาะผนังด้านหน้าของตู้คอนเทรนตามขนาดที่ต้องการแล้วใส่เป็นกระจกใสบาน ใหญ่ หรือเป็นประตูกระจกหลาย ๆ บานเพื่อเปิดรับอากาศภายนอก ทำให้ภายในบ้านไม่อุดอู้
ตู้คอนเทนเนอร์ที่ปลดระวางสามารถสร้างความฝันที่จะมีร้านกาแฟเล็ก ๆ ของคุณที่ให้เป็นจริงได้ ตู้คอนเทนเนอร์เก่าที่ปลดระวางแล้วมักนิยมนำมาใช้ในการสร้างบ้านหรือสร้าง สำนักงานขนาดเล็ก แต่จะมีใครรู้บ้างว่าตู้คอนเทนเนอร์เก่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่า นั้น โดยสามารถนำมาใช้สร้างร้านกาแฟขนาดเล็ก ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนในการเปิดร้าน และยังเป็นไอเดียใหม่ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้อีกทางหนึ่งด้วย
ร้านกาแฟโดยทั่วไปจะเป็นซุ้มร้านขนาดเล็กคล้าย ๆ กันโดยเป็นซุ้มไม้หรือปูน ซึ่งมีต้นทุนการในการก่อสร้างสูง แต่หากต้องการสร้างร้านที่มีต้นทุนต่ำ และสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกเมื่อต้องการเปลี่ยนที่ตั้งร้าน ร้านกาแฟตู้คอนเทนเนอร์ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง เพราะตู้คอนเทนเนอร์มีต้นทุนที่ต่ำกว่าและสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เพราะโครงสร้างเป็นเหล็กทั้งหมดจึงมีความแข็งแรงทนทาน หรือหากต้องการเป็นร้านกาแฟที่มีขนาดใหญ่ก็ใช้วิธีการเรียงตู้ซ้อนกัน แล้วเจาะผนังตู้เพื่อเชื่อมพื้นที่ของตู้ให้เป็นห้องเดียวกัน หรือจะเป็นร้านกาแฟแบบสองชั้น หรือมีดาดฟ้าก็ได้ เพียงแต่รู้จักสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ ให้ดูสวยงาม และไม่เหมือนใคร ร้านกาแฟตู้คอนเทนเนอร์จึงสามารถตอบโจทย์ให้ได้ เพราะด้วยคุณสมบัติที่เป็นเหล็ก จึงสามารถดัดแปลงและตกแต่งให้เป็นรูปแบบต่าง ๆ ที่ต้องการได้ดีและมีความแข็งแรงทนทาน ไม่ว่าจะต้องการเปิดร้านกาแฟเป็นแบบสไตล์ใดก็สามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ สิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงคือ ควรจะตกแต่งร้านให้ดูปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการพักผ่อน
1. ราคาถูกกว่าการลงทุนก่อสร้างด้วยวัสดุชนิดอื่นที่ให้ความแข็งแรงใกล้เคียงกัน
2. รูปแบบการก่อสร้าง สามารถออกแบบได้หลากหลายและมีความสวยงามตามแต่จะจินตนาการ
3. ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ รูปแบบการใช้ตู้คอนเทนเนอร์จะไม่มีวันล้าสมัย เพราะเป็นการนำรูปทรงเรขาคณิตมาเป็นตัวออกแบบ
4. ใช้เวลาในการก่อสร้าง รวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องลงฐานรากขนาดใหญ่ เพียงปรับพื้นที่ให้เหมาะสม ทำพื้นให้แข็งแรงเล็กน้อยก็ใช้ได้แล้ว
5. รักษาสิ่งแวดล้อม เพราะ ตัวตู้ทำด้วยเหล็กเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติอื่นใดมาผสม ทำให้ไม่สิ้นเปลื้อง และยังสามารถนำมารีไซเคิลได้อีก
ปกติ ตู้คอนเทนเนอร์ ทุกใบจะได้รับการรับรองจากผู้ผลิตว่าจะมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า30 ปี นับจากวันที่ผลิตแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานจริงอยู่ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่เรานำมาจำหน่ายหรือดัดแปลงมักมีอายุประมาณ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งหมายความว่ายังสามารถใช้งานต่อไปได้อีกนานเกิน 10 ปี หากได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องซึ่งในกรณี การนำมาตกแต่งดัดแปลงเป็นที่อยู่อาศัยนั้นยิ่งไม่ต้องห่วงเรื่องความคงทนแข็งแรงเพราะส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายบ่อยๆ การถูกกระทบกระแทกก็แทบจะไม่ได้เกิดขึ้น เพียงแต่หากใช้งานไปสักระยะหนึ่งก็ควรมีการตรวจสอบคราบสนิมและบำรุงรักษา ไม่ให้รุกลามออกไป หรืออาจทำการขัดแต่ง รองพื้นด้วยน้ำยากันสนิมแล้วจึงลงสีทับ ตู้ก็จะกลับมาสดใสได้เหมือนเดิม
ถ้าจินตนาการของคุณไม่มีข้อจำกัด การออกแบบ ตู้คอนเทนเนอร์ก็ไม่มีเช่นกันเพราะรูปทรงของตู้ก็เป็นทรงเรขาคณิตและสามารถนำวัสดุอื่นๆมาตกแต่งเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย แต่ลักษณะ เฉพาะของตู้ก็คือความเป็นกล่องสี่เหลี่ยม มียาวมีสั้น มีทรงสูงทรงเตี้ย หากเรานำมาเป็นพื้นฐานในการออกแบบ ก็จะทำให้สัดส่วนการใช้งานลงตัวได้ง่ายขึ้น
ทุกวันนี้การใช้ทรัพยากรของโลกที่มีอยู่อย่างจำกัดเป็นสิ่งที่ทุกคนควรคำนึง ถึงอย่างที่สุด วัสดุหนึ่งที่มีความแข็งแรงทนทานและสามารถนำมารีไซเคิลได้ไม่รู้จบนั่นก็คือ เหล็ก โครงสร้างของ ตู้คอนเทนเนอร์ 100%ทำมาจากเหล็กคุณภาพดี ในวันที่คุณไม่ต้องใช้แล้ว ตู้เหล็กใบนี้ยังสามารถนำมารีไซเคิลเปลี่ยนสภาพไปทำประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ ได้อีก ไม่แน่ว่ารถที่คุณขับอยู่หรือ smart phone ที่คุณใช้ ครั้งหนึ่งมันอาจเคยเป็นตู้คอนเทนเนอร์มาก่อนก็ได้
ความเชื่อเดิมๆเรามักคิดว่าเหล็กมักดึงดูดความร้อนมากกว่าวัสดุอื่น ในความเป็นจริง เหล็กก็คลายความร้อนเร็วกว่าวัสดุอื่นเช่นกัน ประเด็นสำคัญคือเราป้องกันความร้อนเข้ามาได้อย่างไร ในการตกแต่ง ตู้คอนเทนเนอร์ นั้น หัวใจสำคัญคือการป้องกันความร้อนเข้ามาภายในด้วยวัสดุป้องกันความร้อนแบบ ต่างๆ ซึ่งทำได้หลากหลายวิธีและหลากหลายราคา แต่ในมาตรฐานที่เราเลือกใช้ เราจะใช้โฟม PU เป็นฉนวนป้องกันความร้อน(ชนิดเดียวกับโฟมที่ใช้ในตู้เย็น)ก่อนปิดทับด้วย แผ่นผนังสำเร็จรูปหนา 8 มม.ดังนั้นหมดความกังวัลกับเรื่องความร้อนได้เลย